วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2555

ถั่วลันเตา

 ..... ถั่วลันเตา   อุดมไปด้วย เบต้า-แคโรทีนซึ่งเมื่อรับประทานแล้ว ร่างกาบจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตาและช่วยเสริมภูมคุ้มกันโรค รวมทั้งยังช่วยขจัดปัญหาในเรื่องหัวใจขาดเลือด .....แม้ว่าจะมีการปลูกถั่วลันเตากันอย่างแพร่หลาย ถั่วลันเตาชอบอากาศค่อนข้างเย็น ดังนั้นจึงควรปลูกช่วงฤดูหนาว เริ่มเดือนตุลาคม-เดือนกุภาพันธ์และจะสามารถเก็บผลผลิตได้ในราวเดือนมกราคม-เมษายน พันธุ์ของถั่วลันเตามีอยู่หลายพันธุ์ ทั้งพันธุ์ที่บริโภคสดและพันธุ์ที่กินเมล็ด สำหรับพันธุ์ที่นิยมปลูกในเมืองไทย คือพันธุ์ 2-2003-6 และพันธุ์ฝักใหญ่ ซึ่งทั้งสองพันธุ์นี้ให้ผลผลิตคุณภาพดี คือ ฝักที่มีขนาดยาว และมีสีเขียวเข้มน่ารับประทาน
..... การเตรียมดินเหมือนกับการปลูกถั่วฝักยาว เตรียมหลุมปลูกให้มีระยะห่างระหว่างต้น 30 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถว 70 เซนติเมตร ใช้เมล็ดพันธุ์หยอดหลุมละ 4-5 เมล็ด เมื่อกล้าโตขึ้นมีใบจริง 2-3 ใบ จึงถอนแยกต้นกล้า ให้เหลือต้นที่แข็งแรงเหลือหลุมละ 2 ต้น เมื่อถั่วลันเตามีอายุ 15 วันหรือต้นสูง 10-15 เซนติเมตร เริ่มมีมือเกาะจึงใช้ไม้ไผ่ขนาดยาว 1.5-2 เมตร ปักทำค้างโดยการปักตรงหลุมทุกหลุมแล้วจึงรวมปลายไม้ไขว้กัน ...หรือใช้วิธีปักไม้ห่างกันเป็นระยะ 1.5-2 เมตรตามแถวปลูก แล้วใช้เชือกในล่อน หรือเชือกฟางปลูกขึงตามแนวนอน ผูกเป็นชั้นห่างกันประมาณ 30 เซนติเมตร และผูกตามแนวดิ่งอีกทีระยะห่างพอควร เพื่อช่วยให้มือเกาะไดดียิ่งขึ้น รดน้ำตามหลุมให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอ  โดยเฉพาะในช่วงที่ออกดอกและติกผลเป็นช่วงที่ขาดน้ำไม่ได้
..... การใส่ปุ๋ยต้องพิจารณาความสมบูรณ์ของดิน  ถ้าดินสมบูรณ์เพียงพอแล้วก็ไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยคอกรองก้นหลุม  แต่ถ้าดินไม่สมบูรณ์ควรใส่ปุ๋ยสูตร 5-10-5 หรือ 10-20-10 รองก้นหลุม และเมื่อถั่วลันเตามีอายุ 30 วัน ให้เก็บวัชพืชและพรวนดินโคนต้น โรยปุ๋ยและใช้ดินกลบ .....เริ่มเก็บเกี่ยวเมื่ออายุประมาณ 60 วัน และจะเก็บได้เป็นระยะประมาณ 30-60 วัน เก็บโดยใช้มือเด็ดฝัก เลือกเก็บฝักที่ยาวได้ขนาด เมล็ดเริ่มเกิดและยังผอมลีบจะได้ถั่วลันเตาที่อ่อนนุ่มกรอบไม่พอง รับประทานอร่อย
                                                   แหล่งที่มาhttp://www.oknation.net

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น